เทคโนโลยี 5G ย่อมาจากคำว่า The 5th Generation ซึ่งหมายถึงรุ่นที่ 5 ของการสื่อสารด้วยมือถือ ที่จะมีการเชื่อมต่อของสิ่งต่าง ๆ ด้วยระบบเครือข่ายอัจฉริยะ Internet of Things หรือ IoTs ที่ฉับไวอย่างมาก (การสื่อสารรุ่น 1G สามารถใช้เฉพาะเสียงเท่านั้น 2G ใช้ได้ทั้งเสียงและส่งข้อความ 3G มีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ 4G คือดูภาพฟังเสียงสื่อมัลติมีเดียได้) ซึ่งในไทย คาดว่าจะประกาศใช้อย่างเป็นทางการในปี 2020 (หลายประเทศพร้อมใช้ตั้งแต่ปี 2019)
คุณสมบัติของเครือข่าย 5G
5G จะมีความแตกต่างจาก 4G ที่ผ่านมาอย่างไรบ้าง เรามาดูกันเลย
1. มีความเร็วสูงสุด (Peak Data Rates) ที่ 20 Gbps เร็วมากกว่าการสื่อสารด้วย 4G เป็นพันเท่า
2. ระยะเวลาการเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้โทรศัพท์ต้นทางและปลายทาง (Latency) ต่ำกว่า 0.001 วินาที
3. มีความเสถียรในการใช้งานมากถึง 99.9999% โอกาสสายหลุดหรือสัญญาณไม่ชัดเจนน้อยลง
4. สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ IoTs ได้มากขึ้น โดยใช้พลังงานโดยใช้พลังงานในการเชื่อมต่อน้อยลงถึง 90%
ประโยชน์ของ 5G
โดยทั่วไป เราจะรู้ว่าการส่งผ่านข้อมูลผ่าน 5G จะไวขึ้น ทำให้เราใช้งานอุปกรณ์เทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว แต่นอกจากนี้ยังมีประโยชน์อีกมากมายจาก 5G ได้แก่
1. เพิ่ม boardband หรือภาษาเทคนิคก็คือ Enhanced Mobile Broadband (eMBB) หมายถึง ทำให้ศักยภาพในการส่งผ่านข้อมูลสูงขึ้น ทุกคนสามารถที่จะใช้บริการสตรีมมิง (streaming) ที่มีความละเอียดสูงระดับ 4k (สูงกว่า HD) ได้ และยังสามารถทำงานบนคลาวด์ (cloud) ซึ่งเป็นแหล่งเก็บข้อมูลใหญ่ได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาดาวน์โหลดข้อมูลมากอย่างแต่ก่อน (โอกาสที่ภาพและเสียงจะกระตุกลดน้อยลง เมื่อเทียบกับ 4G)
2. สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อัจฉริยะ Internet of Things (IoTs) ได้ หรือ ภาษาเทคนิค คือ Massive Machine Type Communications (mMTC) ตัวอย่างเช่น การที่เราสามารถเชื่อมต่อกับรถยนต์เพื่อควบคุมการขับขี่ การเปิด-ปิดแอร์ เปิด-ปิดประตูบ้าน โทรทัศน์ ฯลฯ ได้สะดวก โดยทำผ่านมือถือ ไม่ต้องใช้ระบบ WiFi ซึ่งจะทำให้ชีวิตประจำวันของทุกคนง่ายดายและสะดวกยิ่งขึ้น
3. การเชื่อมต่อสั่งการ จะมีความเสถียรและฉับไว หรือ เรียกว่า Ultra-Reliable and Low Latency Communication (URLLC) การควบคุมอุปกรณ์จากระยะทางไกลจะไม่มีปัญหาการช้าของภาพและเสียง ตัวอย่างที่ใช้ในทางการแพทย์ เช่น ควบคุมการผ่าตัดที่ละเอียดและต้องแม่นยำ จากการดูผ่านหน้าจอมอนิเตอร์
5G ถือได้ว่ากำลังมีบทบาทและช่วยในการใช้ชีวิตประจำวันด้านต่าง ๆ ของทุกคนให้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น และในส่วนของเครือข่ายมือถือของไทย ก็มีหลายค่ายที่มีคุณสมบัติรองรับเทคโนโลยี 5G ได้ (แต่ในส่วนของเครื่องโทรศัพท์ของแต่ละคน ต้องดูที่สเปคของเครื่องว่าระบบฮาร์ดแวร์รองรับการใช้งานหรือไม่ หากไม่รองรับก็ต้องเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือ) จึงควรติดตามความคืบหน้าของเทคโนโลยี 5G อย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับตัวให้ทันสถานการณ์