เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีรถยนต์แบบไม่มีคนขับ

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีรถยนต์แบบไม่มีคนขับ

รถยนต์แบบไม่มีคนขับเป็นเทคโนโลยีรุ่นใหม่ ที่ในช่วง 2-3 ปีนี้มีการวิจัยและสร้างรุ่นต้นแบบออกมาแล้ว และเริ่มมีการใช้การอยู่ในวงจำกัด เพื่อที่จะนำสู่การปรับปรุงแก้ไข เพื่อผลิตในภาคอุตสาหกรรม ตอบโจทย์การใช้รถยนต์ด้วยระบบไฟฟ้าในวงกว้างต่อไป เราจึงรวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีรถยนต์แบบไม่มีคนขับมาฝากกัน ดังนี้

เทคโนโลยีรถยนต์แบบไม่ต้องมีคนขับ เริ่มมาจากแนวคิดของการใช้ระบบคอมพิวเตอร์อัจฉริยะในการช่วยให้ชีวิตประจำวันของเราทุกคนง่ายขึ้นประกอบกับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่รถใช้น้ำมันมีการสร้างสารพิษ เขม่าควัน และมีการใช้ทรัพยากรน้ำมัน ซึ่งมีต้นทุนสูงและนับวันก็จะหมดไปเรื่อย ๆ จึงคาดว่าจะสามารถทดแทนรุ่นที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ได้ในสัดส่วนที่มากขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการขับรถยนต์แบบไม่ต้องมีคนขับ

ลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุ

เนื่องจากในรถจะควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์อัจฉริยะหรือ AI รุ่นใหม่ที่สามารถกำหนดความเร็ว คำนวณระยะทางและปรับทิศทางของล้อรถ ให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย ห่างจากรถคันหน้า คันหลังและด้านข้างอย่างเหมาะสมที่สุด จึงช่วยลดอุบัติเหตุไม่ทำให้เกิดการเฉี่ยวชนได้

ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม

การทำรถยนต์แบบไม่มีคนขับ มาจากการต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าแทนน้ำมันด้วย เพื่อให้เป็นเทคโนโลยีแบบที่ผู้คนทั่วโลกจะยอมรับได้ง่าย การไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับการแก้ปัญหาโลกร้อนในปัจจุบันที่ทุกองค์กรทั่วโลกกำลังรณรงค์

ช่วยให้ผู้ขับขี่สบายขึ้น

เรามักเห็นข่าวผู้ขับขี่รถยนต์หลับใน เพราะความอ่อนเพลียที่ต้องขับรถเป็นระยะทางไกลต่อเนื่อง หากเปิดใช้ระบบเทคโนโลยีอัจฉริยะในการช่วยขับรถเป็นระยะ ๆ ก็จะทำให้ลดอาการเหนื่อยเพลียและลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุดังกล่าวได้ โดยที่ยังสามารถไปทำงานหรือเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวได้ตามต้องการด้วย

ลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน

การที่ไม่ต้องเสียค่าน้ำมันรถยนต์ที่มีราคาแพงอีกต่อไป เพียงเติมไฟฟ้าให้กับแบตเตอร์รี่แทนเป็นระยะ ๆ ก็จะทำให้ลดค่าใช้จ่ายรายเดือนได้เป็นจำนวนมา ที่สำคัญ ในอนาคตจะมีการสร้างสถานีเติมไฟฟ้าให้รถยนต์รุ่นใหม่มากขึ้นทั่วประเทศ จึงคาดว่าต้นทุนในการชาร์จไฟฟ้าก็จะยิ่งน้อยลง ค่าใช้จ่ายในการเดินทางของครัวเรือนจึงลดลงได้อย่างมาก

อย่างไรก็ตาม การใช้รถยนต์แบบไม่มีคนขับในระยะแรกนี้อาจจะยังมีราคาสูงอยู่ และต้องนำเข้าจากต่างประเทศ อีกทั้งมีสถานีเติมไฟฟ้าที่จำกัดอยู่ในเมืองใหญ่ แต่ก็มีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเทคโนโลยีรุ่นใหม่ ๆ จะช่วยให้วิถีชีวิตของเราทุกคนง่ายขึ้นและดีต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาวด้วย

รถยนต์แบบไม่มีคนขับ