AI (Artificial Intelligence) หรือเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เป็นสิ่งที่มีพัฒนาการโดยมนุษย์มาต่อเนื่องหลายสิบปี ตั้งแต่การประสบความสำเร็จในการสร้างคอมพิวเตอร์รุ่นแรก ๆ เรื่อยมาจนถึงการมีมือถือ smartphone รุ่นใหม่ ๆ ที่เป็นการแสดงให้เราเห็นได้ชัดเจนถึงความเติบโตอย่างก้าวกระโดดของวิทยาการทางคอมพิวเตอร์

กว่าจะ ถึงวันนี้ กับเทคโนโลยี

โดยในช่วงแรกของการสร้าง AI ให้ตอบสนองต่อคำสั่งของคนนั้น มีการเขียนโปรแกรมให้มีระบบการคิดคำนวณและมีการวางแผนสำหรับเล่นเกมส์หมากรุก ชื่อว่า Deep Blue ซึ่งผลปรากฏว่า เทคโนโลยี AI สามารถเอาชนะสถิติที่มีคนเคยเล่นเกมส์หมากรุกระดับโลกได้ สร้างความประทับใจและทำให้หลายคนเห็นความเป็นไปได้ในการต่อยอดธุรกิจจากเทคโนโลยีนี้

ในปัจจุบัน AI ถูกใช้ในการสื่อสารและเชื่อมโยงข้อมูลของมนุษย์จากหลากหลายมุมโลกเข้าด้วยกัน มีบริษัทชื่อดังระดับโลกอย่าง Microsoft , Google , Facebook , Line เป็นเจ้าครองตลาดใน e-commerce และมีขีดความสามารถสูงมากในการรวบรวม วิเคราะห์และสร้างฐานข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อเป็นรากฐานของสังคม Big data ในอนาคตที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้า

ในระยะหลัง การเติบโตของเทคโนโลยีและการสร้างสรรค์โปรแกรมที่มีความสามารถในการตอบโต้กับคนเรามีมากขึ้น มีการสั่งงานผ่านรูปแบบเสียงมากขึ้น โดยในช่วงแรกเป็นระบบที่มีเฉพาะโทรศัพท์ไอโฟนอย่าง Siri ควบคู่ด้วย Google assistant ของค่ายกูเกิ้ล Cortana ของ Microsoft และ alexa จาก amazon ที่เชื่อได้ว่าจะมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดต่อไป

ในส่วนของการสนับสนุนการทำธุรกิจแบบออนไลน์ AI ถูกพัฒนาจนเป็นระบบ ROBOT ที่สามารถตอบคำถามและให้คำแนะนำแก่ลูกค้าขององค์กรต่าง ๆ ได้ โดยช่วยตอบคำถามทั่วไป หรืออยู่ในส่วนของการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ฝ่ายดูแลลูกค้า หรือ customer service ในการบริการลูกค้าด้วยความรวดเร็วฉับไว เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการใช้ปัญญาประดิษฐ์ทำงานแทนคน

นอกจากการตอบสนองผ่านระบบคอมพิวเตอร์ออนไลน์แล้ว AI ยังมีบทบาทมากขึ้นในวงการรถยนต์ เนื่องจากมีการพัฒนาเทคโนโลยีการขับขี่แบบไร้คนขับ ไม่จำเป็นต้องอาศัยการตัดสินใจและทัศนวิสัยของมนุษย์อีกต่อไป ซึ่งคาดการณ์กันว่าจะเป็นการเปิดมิติใหม่แห่งวงการยานพาหนะทุกรูปแบบและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านนี้ให้รุดหน้าอย่างรวดเร็วด้วย

สำหรับความแม่นยำปลอดภัยในการใช้เทคโนโลยี AI นั้น เรียกได้ว่ามีระบบการคิดคำนวณและประเมินผลอย่างแม่นยำ ยิ่งกว่ามนุษย์ที่มีขีดจำกัดทางสมองและมีความเหน็ดเหนื่อยอ่อนเพลียได้จากการทำงานหลายชั่วโมง การใช้อุปกรณ์ด้าน AI จึงเป็นตัวช่วยที่ดีในการลดความผิดพลาดหรือ error ในการทำงานของทุกวงการ ทำให้งานแต่ละอย่างสำเร็จ เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วขึ้น

กว่าจะ ถึงวันนี้

เราหวังว่าบทความนี้ จะทำให้ทุกท่านเห็นความสำคัญของการติดตามความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยี AI และเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้สามารถใช้ประโยชน์จาก AI ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในอนาคต