4 เทคโนโลยีเพื่อการขายที่คนทำธุรกิจต้องรู้จัก รับรองประโยชน์เพียบ

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเทคโนโลยีที่ก้าวไกลมีส่วนอย่างยิ่งในการทำให้ชีวิตคนเราสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น จนทำให้เทคโนโลยีหลายอย่างเข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิต ไม่เว้นแม้กระทั่งการค้าขายที่ปัจจุบันได้เทคโนโลยีมาเป็นตัวช่วยทำให้การขายสินค้าง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้าแบบมีหน้าร้านหรือการขายสินค้าแบบออนไลน์ และสำหรับใครที่เป็นเจ้าของธุรกิจลองมาดูกันว่าจะมีเทคโนโลยีอะไรบ้างที่ต้องทำความรู้จัก เพราะมีประโยชน์อย่างยิ่งในการค้าขาย

4 เทคโนโลยีเพื่อการขาย คนทำธุรกิจต้องรู้จัก

1. แพลตฟอร์มการขาย

ปัจจุบันการขายสินค้าและบริการไม่ได้พึ่งพาเฉพาะหน้าร้านเท่านั้น เพราะปัจจุบันคนเราหันมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น หลายธุรกิจที่มีหน้าร้านจึงหันมาขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มอื่น ๆ ร่วมด้วย โดยปัจจุบันมีหลายแพลตฟอร์มที่รองรับการขายสินค้าออนไลน์ให้ง่ายขึ้น เช่น Lazada, Shopee หากเป็นแบรนด์ใหญ่ก็มีเว็บไซต์ขายของออนไลน์เป็นของตัวเอง เพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าที่ไม่สะดวกมาเลือกสินค้าหน้าร้าน

2. Chatbot

เพราะการขายสินค้าออนไลน์ ลูกค้าจะไม่ได้เห็นสินค้าจริง เพราะฉะนั้นก่อนตัดสินใจซื้อลูกค้ามักมีคำถามมากมาย และเพื่อประหยัดเวลาพนักงานในการนั่งตอบคำถาม ปัจจุบันได้มีเทคโนโลยี Chatbot คอยตอบคำถามแบบอัตโนมัติ โดยเจ้าของธุรกิจควรรวบรวมคำถามที่พบบ่อยเพื่อให้ระบบตอบกลับอัตโนมัติ เพื่อไม่ให้เสียเวลา สามารถเอาเวลาที่ต้องตอบคำถามลูกค้าไปพัฒนางานด้านอื่น ๆ ได้

3. ช่องทางชำระเงินออนไลน์ (Online Payment Gateway)

ไม่เพียงแต่การมีแพลตฟอร์มซื้อขายที่ทันสมัยและสะดวกสบายเท่านั้น เพราะขั้นตอนการชำระเงินก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยช่องทางชำระเงินที่ถูกใจผู้บริโภคคือต้องใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก ไม่ซับซ้อน ที่สำคัญยังต้องปลอดภัย เพื่อให้มั่นใจทุกครั้งที่เลือกซื้อสินค้าและบริการ

4. Big Data

Big Data หรือคลังข้อมูลขนาดใหญ่ของลูกค้าที่มีประโยชน์อย่างมากในอนาคต เพราะเป็นคลังที่รวบรวมข้อมูลลูกค้าเอาไว้ เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ฯลฯ ประโยชน์ของการมีคลังข้อมูลเหล่านี้ก็เพื่อประโยชน์ด้านการตลาด หากในอนาคตมีรายการส่งเสริมการขายใดที่เหมาะกับลูกค้ากลุ่มนี้ ก็สามารถแจ้งข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางที่ลูกค้าเคยให้ข้อมูลไว้ ยกตัวอย่าง หากลูกค้าเคยซื้อเครื่องสำอางแบรนด์เกาหลี เมื่อร้านค้ามีการทำโปรโมชั่นลดราคาครีมเกาหลีก็สามารถส่งข้อความแจ้งลูกค้าได้โดยตรง เพิ่มโอกาสการกลับมาซื้อได้เป็นอย่างดี

นอกจากการนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการค้าขายแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เจ้าของธุรกิจต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กันคือคุณภาพของสินค้าและบริการ เพราะคุณภาพสินค้ามีส่วนอย่างมากในการทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าซ้ำและสร้างความจงรักภักดีต่อผลิตภัณฑ์หรือบริการ เพียงเท่านี้เชื่อว่าการขายสินค้าจะประสบความสำเร็จมากขึ้นและยังมีลูกค้าใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

จักรยานน้ำ ฟิตแอนด์ฟันสไตล์คนเจน Z

สุขภาพดีนั้นเป็นสิ่งที่ซื้อหาไม่ได้ แต่คุณจะได้มาด้วยการดูแลสุขภาพ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่ได้มีแรงบันดาลใจในการออกกำลังกายมากมายนัก หรือเป็นคนที่ไม่ชอบไปยิม หรือไม่สะดวกใจที่จะไปฟิตเนสล่ะ จะทำอย่างไรดี เราขอบอกว่า คุณอย่าเพิ่งท้อแท้ไปเลย การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็น แต่คุณรู้ไหมว่า ก็ยังมีหลายหลากวิธีการออกกำลังกายให้คุณเลือกได้เช่นกันนะ ตัวอย่างเช่น การออกไปเดินไปจ็อกกิ้งในที่โล่ง ๆ หรือในสวนสาธารณะ ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ นอกเหนือจะได้ความเพลิดเพลินจากธรรมชาติแล้ว ก็ยังได้ถือโอกาสผ่อนคลายไปกับอากาศบริสุทธิ์ ดีกว่าอุดอู้อยู่ในห้อง ในพื้นที่ปิดอีกด้วย และวันนี้เราก็มีแนวทางออกกำลังกายแบบใหม่ ๆ ที่เป็นกิจกรรมการเวิร์คเอาต์ที่น่าสนใจมาก ๆ เพราะคุณจะได้เปิดประสบการณ์สุดพิเศษ สัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิดอีกด้วย แถมยังเป็นเทรนด์ใหม่ของ ฟิตแอนด์ฟัน สไตล์คนเจน Z ด้วยนะ

จักรยานน้ำ ฟิตแอนด์ฟันสไตล์คนเจน Z

ลองนึกแทนที่ภาพของการขี่จักรยานธรรมดา ๆ ลดหลั่นไปตามเนินเขา แต่คุณปั่นจักรยานน้ำไปบนผืนน้ำ และมองตรงไปในความสวยงามของเวิ้งอ้าวในทะเลสาบ ซึ่งตระการตาไปด้วยแสงระยิบระยับยามพระอาทิตย์กำลังจะโผล่ขึ้นพ้นผิวน้ำในยามเช้าตรู่ดูสิ ใช่แล้ว ยอดเยี่ยมไปเลยใช่ไหมล่ะ และนี่ก็คือการปั่นจักรยานน้ำ ในแหล่งน้ำธรรมชาติที่แสนงดงามนั่นเอง

วิธีใหม่ในการเพลิดเพลินกับกีฬาทางน้ำ!

ไม่ว่าคุณจะปั่นจักรยานน้ำเพื่อเวิร์คเอาท์แบบเต็มกำลัง หรือแค่ปั่นแผ่ว ๆ ชิล ๆ พักผ่อนสบาย ๆ บนผิวน้ำ คุณก็จะเพลิดเพลินได้อย่างไม่มีสิ้นสุด เพราะจักรยานน้ำเป็นกีฬาทางน้ำที่ผสมผสานความแข็งแกร่งของร่างกายมนุษย์ กับความครีเอตในการหลีกหนีจากความซ้ำซากจำเจของการปั่นจักรยานแบบเดิม ๆ จนกลายเป็นเทรนด์กีฬาทางน้ำแบบใหม่ 

กำลังส่งจากแรงถีบของผู้ปั่นจักรยานน้ำ จะขับเคลื่อนใบพัดที่อยู่ติดกับทุ่นด้านล่าง และทำให้จักรยานน้ำเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ในขณะเดียวกันก็สามารถลอยตัวอยู่นิ่ง ๆ เหนือผิวน้ำ ให้ผู้ขี่ได้พักเหนื่อยได้อย่างปลอดภัย และยังสนุกกว่าการปั่นจักรยานแบบเดิม ๆ หรือปั่นจักรยานบนลู่ในฟิตเนสอีกด้วยนะ

ลองสัมผัสกับประสบการณ์การผจญภัยเล็ก ๆ กับกิจกรรมกีฬาทางน้ำแบบตื่นเต้นเบา ๆ และไม่เหมือนใคร ด้วยการปั่นจักรยานน้ำ พร้อมกับเพลิดเพลินกับธรรมชาติด้วยวิธีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แถมยังราคาไม่แพงอีกด้วย ขอเพียงแค่คุณว่ายน้ำเป็นเท่านั้น เหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ อีโคเฟรนด์ลี่ขนาดนี้เห็นทีว่าไม่ลองคงไม่ได้แล้วสินะ

ทำความรู้จักกับเทคโนโลยีสุดล้ำเพื่อความสะดวกสบายของผู้อยู่อาศัย

เมื่อพูดถึงเทคโนโลยีคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้ทุกคนใช้ชีวิตง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น ยิ่งโดยเฉพาะเทคโนโลยีสำหรับบ้าน ของใช้ต่าง ๆ ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคุณให้เหนือกว่า เช่นนั้นตามไปดูเทคโนโลยีสุดล้ำที่เหมาะสำหรับผู้อยู่อาศัยกันได้เลย 

  1. เครื่องชาร์ตแบบไร้สายที่มาในรูปแบบของเคาเตอร์ครัว โต๊ะเอนกประสงค์ ซึ่งช่วยให้สมาชิกในครอบครัวสามารถชาร์ตแบตเตอรี่ได้ง่ายกว่าที่เคยโดยไม่ต้องมีสายชาร์จและสายไฟแบบปลั๊กพ่วงเพื่อให้ใช้งานหลาย ๆ การชาร์จได้พร้อมกัน ช่วยให้ไม่ดูรกตา แถมยังประหยัดเวลาได้มากทีเดียว เหมาะกับวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่สุด ๆ
  1. เทคโนโลยีจากเครื่องพับผ้าอัตโนมัติ แม้ว่าจะมีเครื่องซักผ้า อบผ้า ให้ผ้าแห้งแบบไม่ต้องเปลืองแรงตากแล้ว แต่การพับผ้าให้เรียบร้อย เป็นระเบียบก็เป็นปัญหาของใครหลาย ๆ คน เนื่องด้วยมีผ้าจำนวนมากและต้องการพับผ้าออกมาให้สวยงามทุกชิ้นเพื่อให้สามารถจัดเก็บได้ง่าย เทคโนโลยีนี้จึงเป็นเทคโนโลยีที่โดนใจคุณแม่บ้านสุด ๆ ช่วยประหยัดเวลา ทำให้มีเวลาเหลือสำหรับงานบ้านอื่น ๆ 
  1. เทคโนโลยีอัจฉริยะ ที่มีการควบคุมการทำงานและสั่งการได้ผ่านแอปพลิเคชันได้ง่าย ๆ บนสมาร์ทโฟนหรือโทรศัพท์มือถือนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นการเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน การเปิด-ไฟตามทางเดินจุดต่าง ๆ ภายในบ้าน รวมทั้งหน้าต่าง ประตู กล้องวงจรปิด การปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศและอื่น ๆ อีกมากมาย บอกเลยว่าตอบโจทย์สมาชิกในครอบครัวทุกคน 
  1. เทคโนโลยีตรวจจับอัจฉริยะ ตรวจจับการเคลื่อนไหวเมื่อมีการเคลื่อนไหวอยู่ในระยะที่สามารถตรวจจับได้ ข้อดีคือช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้า ยกตัวอย่างเช่นเมื่อเราต้องการที่จะลุกเข้าห้องน้ำหรือลงบันไดบ้านในตอนกลางคืน ก็ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินเปิดไฟ เมื่อเดินผ่านตัวตรวจจับไฟก็จะมีการเปิดแบบอัตโนมัติ และเมื่อไม่มีการเคลื่อนไหวไฟก็จะมีการปิดเอง ทำให้ช่วยประหยัดค่าไฟได้มากขึ้นในแต่ละเดือน 
  1. เทคโนโลยีกระจกอัจฉริยะ ที่เป็นมากกว่ากระจกทั่วไป มีฟังก์ชันต่าง ๆ คล้ายกับคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊กและโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเมื่อใช้งานกระจกอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการล้างหน้า แปรงฟัน การแต่งหน้า ก็สามารถเช็กข้อมูล ฟังเพลง เช็คสภาพอากาศ รับชมวิดีโอหรือแม้แต่พูดคุยโทรศัพท์ไปพร้อม ๆ กัน ด้วยที่มีการเชื่อมต่อผ่านระบบต่าง ๆ ผ่านกระจกอัจฉริยะที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย เหมาะกับวิถีชีวิตคนเมืองสุด ๆ 

บอกเลยว่าทั้ง 5 เทคโนโลยีสำหรับบ้านที่เหมาะสำหรับผู้อยู่อาศัยข้างต้นที่นำมาฝากกันนั้น สามารถใช้งานได้จริง เพิ่มความสะดวกสบาย มีความคุ้มค่า ทันสมัย ทำให้ผู้ใช้งานมีเวลาเหลือสำหรับทำกิจกรรมต่าง ๆ อีกมากมาย เติมเต็มความสุขให้กับการอยู่อาศัยภายในบ้านได้อย่างเต็มที่

รวมเทคโนโลยีความปลอดภัยสำหรับบ้านและคอนโดที่ดีต่อใจผู้อยู่อาศัย

การอยู่อาศัยภายในที่พักอาศัยเรื่องของความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ลูกบ้านหรือเจ้าของบ้านควรให้ความสำคัญมาเป็นอันดับแรก เนื่องด้วยมีความเสี่ยงต่อทั้งชีวิตและทรัพย์สินแบบที่ตัวของเราเองก็ไม่สามารถคาดการณ์ได้ ดังนั้นในวันนี้จะพาทุกคนไปพบกับเทคโนโลยีความปลอดภัยสำหรับบ้านและคอนโดที่ดีต่อใจ มีความคุ้มค่าสำหรับผู้พักอาศัยทุกคน

  • กลอนประตูดิจิทัล เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่เริ่มมีการนำไปใช้กันแพร่หลายมากขึ้น ข้อดีของการมีกลอนประตูดิจิทัลคือ เจ้าของบ้านหรือคอนโดสามารถที่จะเข้าออกบ้านหรือคอนโดได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่นในกรณีที่มีการลืมกุญแจก็สามารถสแกนลายนิ้วมือหรือกดรหัสผ่านประตูเพื่อเข้าออกห้องได้ โจรผู้ร้ายที่คิดว่าจะมางัดแงะประตูหรือสะเดาะกลอนประตูก็จะเป็นเรื่องยาก ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้พักอาศัยอีกทางหนึ่ง ซึ่งทั้งนี้ถ้าหากเกิดเหตุการณ์ที่มีการงัดแงะขึ้นมาจริง ๆ ก็จะมีการร้องแจ้งเตือนจากตัวเครื่องที่ติดตั้งด้วย บอกเลยว่าสารพัดประโยชน์จริง ๆ
  • ระบบวิดีโอดอร์โฟน หรือระบบที่สามารถเห็นหน้าของผู้ที่มาหา ที่มีการยืนอยู่ภายนอกประตู โดยที่ผู้ที่พักอาศัยอยู่บริเวณด้านในยังไม่ต้องเปิดประตู ประโยชน์ของเทคโนโลยีรูปแบบนี้คือ ทำให้สามารถเช็คได้ว่าใครที่มาติดต่อ เรียกหา เพื่อเช็คความมั่นใจว่าเป็นคนที่รู้จักหรือไม่มีความเสี่ยงถ้าหากว่ามีการเปิดประตูออกไปเพื่อพูดคุยหรือรับสิ่งของต่าง ๆ และถ้าต้องการได้ยินเสียงเพื่อสอบถามถึงจุดประสงค์ที่ต้องการมาพบก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่ามีความสะดวกสบายและปลอดภัย
  • เครื่องตรวจจับควันเป็นอีกเทคโนโลยีหนึ่งที่มักจะพบเห็นได้ตามที่อยู่อาศัยประเภทคอนโด ถ้าหากมีปริมาณควันที่เยอะมากจนเกินไปจะทำให้ เครื่องตรวจจับควันมีการแจ้งเตือนขึ้นมา ช่วยในการป้องกันเหตุร้ายแรงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ 
  • ระบบการออกคำสั่งผ่านเสียง ระบบ smart home ที่สามารถใช้งานได้ง่ายและสะดวก ไม่ว่าจะเป็นการสั่งการให้มีการเปิดหรือปิดไฟฟ้าภายในบ้าน การเปิด-ปิดแอร์รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ที่มีการเชื่อมต่อกับระบบ smart home มีความง่าย รวดเร็วทันใจ ช่วยลดโอกาสในการลืมปิดอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้านได้ดี

การดูแลความปลอดภัยภายในบ้านสามารถทำได้หลากหลายวิธี หนึ่งในนั้นก็คือการนำเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์สำหรับบ้านชีวิตและทรัพย์สินของผู้อยู่อาศัยมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายที่มากกว่าเดิมแล้วก็ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างความอุ่นใจในการอยู่อาศัยได้อีกด้วย

รวมเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะเปลี่ยนโลกทั้งใบของทุกคน

ไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้อีกต่อไปว่าไม่มีเทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน แต่การพัฒนาของเทคโนโลยียังก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องไม่มีหยุดยั้ง ด้วยการสนับสนุนจากทั้งรัฐบาลโลกและกลุ่มนักวิจัยรุ่นใหม่ ๆ จึงทำให้ในอนาคตมนุษย์ทุกคนบนโลกจะมีโอกาสได้สัมผัสกับเทคโนโลยีที่มีความล้ำสมัยและซับซ้อนมากยิ่งขึ้นไปอีก เทคโนโลยีที่ถูกออกแบบขึ้นใหม่ต่างมีจุดประสงค์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของมนุษย์ให้ดียิ่งขึ้น สามารถแก้ปัญหาหลายอย่างที่มนุษย์กำลังเผชิญหน้าอยู่ วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับเทคโนโลยีที่จะเข้ามาเปลี่ยนโลกของมนุษย์ทุกคนด้วยกัน

  1. เทคโนโลยีควอนตัม

เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการอาศัยความสามารถของสนามแม่เหล็กไฟฟ้ามาใช้ในการประมวลผลข้อมูล ซึ่งจะส่งผลให้การประมวลผลข้อมูลจำนวนมากสามารถทำได้เร็วขึ้นหลายเท่าตัว และยังคงมีความแม่นยำสูง ดังนั้นเทคโนโลยีนี้สามารถนำเข้ามาจัดการปัญหาเกี่ยวกับข้อมูลขนาดใหญ่ เช่น การจัดการการขนส่งโลจิสติกส์ การจัดการเที่ยวบิน การจัดการระบบการเงิน ได้เป็นอย่างดี

  1. ระบบปัญญาประดิษฐ์

หลายคนคงคุ้นเคยกับเทคโนโลยีนี้ในชื่อ AI ที่ย่อมาจาก Artificial Intelligence ซึ่งเป็นเครื่องจักรที่ประกอบไปด้วยระบบประมวลผลที่มนุษย์สร้างขึ้น มีความสามารถในการทำความเข้าใจ วิเคราะห์ แก้ไขปัญหา เหมือนสมองของมนุษย์ แต่ AI จะตัดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้อารมณ์ของมนุษย์ออกไป โดยในปัจจุบันเราเห็น AI ได้ในระบบการแนะนำสินค้าที่สามารถเลือกมาได้ใกล้เคียงกับความต้องการของผู้ใช้งาน เป็นต้น แต่ในอนาคต AI จะก้าวเข้ามามีบทบาทที่สำคัญมากขึ้นในสังคมโลกอย่างแน่นอน

  1. กายจำลองทดสอบยา

การจะปล่อยยารักษาโรคหรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในวงการแพทย์ จำเป็นต้องมีการทดสอบผลลัพธ์การรักษา และผลข้างเคียงก่อนจะถูกนำมาใช้ในมนุษย์ แต่การทดสอบในสัตว์มีข้อจำกัดหลายอย่างที่อาจไม่สามารถแสดงผลลัพธ์ที่แท้จริงของยาออกมาได้ ดังนั้นจึงมีการเพาะเลี้ยงกายจำลองที่มีโครงสร้างทางชีววิทยาเหมือนมนุษย์ มีลักษณะเป็นร่างกายเทียมขนาดเล็ก โดยจะถูกนำมาใช้ทดสอบยาเหล่านี้แทน สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาโรคต่าง ๆ ให้มนุษย์มากขึ้น และแก้ปัญหาข้อจำกัดทางมนุษยธรรมไปได้หลายประการ

  1. อินเทอร์เน็ต 6G 

เป็นระบบอินเทอร์เน็ตที่คาดการณ์ว่าจะมีความเร็วกว่า 5G ประมาณ 100 เท่า ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้การทำงานทางไกล หรือการติดต่อสื่อสารทางไกลทำได้เสถียรขึ้น นอกจากนั้นระบบเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ต้องพึ่งพาอินเทอร์เน็ตจะทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย อาจส่งเสริมเทคโนโลยีทางการรักษา เช่น การผ่าตัดทางไกลอย่างแม่นยำ เป็นต้น

ทั้ง 4 เทคโนโลยีที่นำมาแนะนำให้ทุกคนรู้จักกันในวันนี้ นับเป็นพื้นฐานเทคโนโลยีที่จะถูกนำไปต่อยอดในหลายด้าน ทั้งวงการการศึกษา การแพทย์ อุตสาหกรรม และการอนุรักษ์ ที่มีความน่าสนใจ และมีโอกาสสูงมากที่จะเข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิตของสังคมโลก ดังนั้นพวกเราทุกคนในฐานะพลเมืองของโลก ควรเริ่มทำความรู้จักและเปิดรับเรื่องเทคโนโลยีใหม่ ๆ เหล่านี้เข้ามาให้มากขึ้น เพื่อการปรับตัวที่รวดเร็วและง่ายดายในอนาคต 

รวมเทคโนโลยีความปลอดภัยสำหรับบ้านและคอนโดที่ดีต่อใจผู้อยู่อาศัย

การอยู่อาศัยภายในที่พักอาศัยเรื่องของความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ลูกบ้านหรือเจ้าของบ้านควรให้ความสำคัญมาเป็นอันดับแรก เนื่องด้วยมีความเสี่ยงต่อทั้งชีวิตและทรัพย์สินแบบที่ตัวของเราเองก็ไม่สามารถคาดการณ์ได้ ดังนั้นในวันนี้จะพาทุกคนไปพบกับเทคโนโลยีความปลอดภัยสำหรับบ้านและคอนโดที่ดีต่อใจ มีความคุ้มค่าสำหรับผู้พักอาศัยทุกคน

  • กลอนประตูดิจิทัล เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่เริ่มมีการนำไปใช้กันแพร่หลายมากขึ้น ข้อดีของการมีกลอนประตูดิจิทัลคือ เจ้าของบ้านหรือคอนโดสามารถที่จะเข้าออกบ้านหรือคอนโดได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่นในกรณีที่มีการลืมกุญแจก็สามารถสแกนลายนิ้วมือหรือกดรหัสผ่านประตูเพื่อเข้าออกห้องได้ โจรผู้ร้ายที่คิดว่าจะมางัดแงะประตูหรือสะเดาะกลอนประตูก็จะเป็นเรื่องยาก ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้พักอาศัยอีกทางหนึ่ง ซึ่งทั้งนี้ถ้าหากเกิดเหตุการณ์ที่มีการงัดแงะขึ้นมาจริง ๆ ก็จะมีการร้องแจ้งเตือนจากตัวเครื่องที่ติดตั้งด้วย บอกเลยว่าสารพัดประโยชน์จริง ๆ
  • ระบบวิดีโอดอร์โฟน หรือระบบที่สามารถเห็นหน้าของผู้ที่มาหา ที่มีการยืนอยู่ภายนอกประตู โดยที่ผู้ที่พักอาศัยอยู่บริเวณด้านในยังไม่ต้องเปิดประตู ประโยชน์ของเทคโนโลยีรูปแบบนี้คือ ทำให้สามารถเช็คได้ว่าใครที่มาติดต่อ เรียกหา เพื่อเช็คความมั่นใจว่าเป็นคนที่รู้จักหรือไม่มีความเสี่ยงถ้าหากว่ามีการเปิดประตูออกไปเพื่อพูดคุยหรือรับสิ่งของต่าง ๆ และถ้าต้องการได้ยินเสียงเพื่อสอบถามถึงจุดประสงค์ที่ต้องการมาพบก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่ามีความสะดวกสบายและปลอดภัย
  • เครื่องตรวจจับควันเป็นอีกเทคโนโลยีหนึ่งที่มักจะพบเห็นได้ตามที่อยู่อาศัยประเภทคอนโด ถ้าหากมีปริมาณควันที่เยอะมากจนเกินไปจะทำให้ เครื่องตรวจจับควันมีการแจ้งเตือนขึ้นมา ช่วยในการป้องกันเหตุร้ายแรงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ 
  • ระบบการออกคำสั่งผ่านเสียง ระบบ smart home ที่สามารถใช้งานได้ง่ายและสะดวก ไม่ว่าจะเป็นการสั่งการให้มีการเปิดหรือปิดไฟฟ้าภายในบ้าน การเปิด-ปิดแอร์รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ที่มีการเชื่อมต่อกับระบบ smart home มีความง่าย รวดเร็วทันใจ ช่วยลดโอกาสในการลืมปิดอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้านได้ดี

การดูแลความปลอดภัยภายในบ้านสามารถทำได้หลากหลายวิธี หนึ่งในนั้นก็คือการนำเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์สำหรับบ้านชีวิตและทรัพย์สินของผู้อยู่อาศัยมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่นเดียวกันกับเทคโนโลยีกีฬาออนไลน์ก้าวกระโดดไกลไปมากจากอดีต เช่นเราอยากดูวิเคราะห์บอลวันนี้เราก็สามารถค้นหาในgoogleได้ นอกจากจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายที่มากกว่าเดิมแล้วก็ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างความอุ่นใจในการอยู่อาศัยได้อีกด้วย

มารู้จักเทคโนโลยี AI แบบเข้าใจง่าย

มารู้จักเทคโนโลยี AI แบบเข้าใจง่าย

จอห์น แมคคาร์ธี (John McCarthy) เป็นผู้บัญญัติคำว่า AI ที่ย่อมาจาก Artificial Intelligence หรือที่ภาษาไทยเรียกว่า ปัญญาประดิษฐ์ เมื่อปี พ.ศ. 2499 โดยให้นิยามว่า “วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ที่สร้างความฉลาดให้กับเครื่องจักร”

AI เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้เครื่องจักรมีความฉลาด สามารถคิด ตัดสินใจ และเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง AI ทำงานได้โดยการนำเข้าชุดของข้อมูลและเงื่อนไขเพื่อประมวลผลและสร้างผลลัพธ์ที่ต้องการนำมาใช้ประโยชน์ วัตถุประสงค์ของ AI คือการช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานของมนุษย์ ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลที่มีความซับซ้อน และช่วยให้มนุษย์ตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น

AI แบ่งเป็น 3 ระดับตามความสามารถในการทำงาน ได้แก่

1. ปัญญาประดิษฐ์เชิงแคบ (Artificial Narrow Intelligence; ANI) หรือเรียกว่า Weak AI เป็นปัญญาประดิษฐ์ที่เราใช้งานกันอยู่ในปัจจุบัน เป็น AI ที่มีความสามารถเฉพาะทาง หรือจัดการได้เรื่องเดียว เช่น Siri ที่สามารถตอบคำถามง่าย ๆ ได้ Grammarly ที่ช่วยตรวจสอบคำและไวยากรณ์ Google ที่ใช้ค้นหาข้อมูล Netflix ที่แนะนำหนังหรือละครที่น่าสนใจ Grab ที่ใช้เรียกรถ เป็นต้น

2. ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป (Artificial general intelligence; AGI) เป็น General AI เป็นปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถเข้าใจเหตุผล สามารถคิดเองได้ วางแผนได้ และจัดการเรื่องที่มีความซับซ้อนได้ AGI จะใช้การทำงานของ ANI หลาย ๆ ตัวรวมกันเพื่อช่วยให้เหตุผลที่สอดคล้องสัมพันธ์กัน

3. ปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง (Artificial Super Intelligence; ASI) เป็น Strong AI นำเอา AGI หลาย ๆ ตัวมาทำงานร่วมกัน เพื่อให้มีความฉลาดเหนือมนุษย์ สามารถคิดคำนวณได้รวดเร็ว ตัดสินใจอย่างมีเหตุมีผล และมีความรู้สึกนึกคิดด้วย

ปัจจุบัน AI ยังอยู่ในระดับ Weak AI คือ ANI ส่วน AGI และ ASI ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง

เทคโนโลยีสร้างความฉลาดของ AI ดังนี้

1. AI: Artificial Intelligence สามารถแก้ไขปัญหาจากชุดข้อมูลหรือชุดคำสั่งที่สร้างไว้ได้สำเร็จ

2. ML: Machine Learning เป็นกระบวนการที่ทำให้เครื่องจักรได้เรียนรู้ด้วยตัวเองโดยการใช้ข้อมูลจำนวนมากเพื่อให้เครื่องจักรทำความเข้าใจ ประมวลผล และตัดสินใจด้วยตัวเอง

3. DL: Deep Learning เป็นการเรียนรู้เชิงลึกโดยการเลียนแบบเครือข่ายประสาทของมนุษย์ มีการประมวลผลแบบขนานต่อกันหลาย ๆ ชั้น ต่อเนื่องกัน ทำให้สามารถประมวลผลข้อมูลจำนวนมากหรือประมวลข้อมูลหลายส่วนพร้อม ๆ กันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ถึงแม้ AI จะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและสร้างความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างจนเกิดความกังวลว่าอาจมาแทนที่มนุษย์ได้นั้นเป็นเรื่องของอนาคต เนื่องจากปัจจุบัน AI ยังอยู่ในระดับ Weak AI อย่างไรก็ตาม ยังมีงานที่ AI ยังไม่สามารถเข้ามาทำงานแทนที่มนุษย์ได้ ตัวอย่างเช่น งานด้านความคิดสร้างสรรค์ที่มนุษย์มีความสามารถในการคิดได้หลากหลายรูปแบบจากสมองที่ความซับซ้อนมากกว่า AI งานตัดสินใจจากข้อมูลที่ AI ประมวลผลออกมาแล้ว และงานที่ติดต่อสัมพันธ์กับมนุษย์ ที่จำเป็นต้องมีความยืดหยุ่นและปรับให้เหมาะกับคนแต่ละคน เราจึงควรศึกษาเพื่อพัฒนาความสามารถในส่วนที่ AI ไม่สามารถเข้ามาทำแทนมนุษย์ได้และอยู่รอดได้ในโลกอนาคต

แนะนำเทคโนโลยีน่าสนใจปี 2022

แนะนำเทคโนโลยีน่าสนใจปี 2022

การพัฒนาเทคโนโลยีในปัจจุบันมีความรวดเร็ว และก้าวไกลแบบก้าวกระโดดเป็นอย่างมาก ส่วนหนึ่งก็เพื่อรองรับวิถีชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นเพื่อรับมือกับสถานการณ์ของโลกระบาด การใช้ชีวิตโดยพึ่งพาสิ่งอำนวยความสะดวกแบบอัตโนมัติ หรือเทคโนโลยีที่เชื่อมผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกให้เข้าถึงกันได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น โดยมีเทคโนโลยีที่น่าสนใจและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ดังนี้

1. ระบบอัตโนมัติ (Automation) มีการคาดเดาว่าในปี 2025 เป็นต้นไป อาจมีงาน หรืออาชีพที่ถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติ โดยเรียกจุดเริ่มนี้ว่า Hybrid AI เป็นการการใช้ AI (Artificial Intelligence) เข้ามาทดแทนการทำงานของมนุษย์ โดยเฉพาะการทำงานของเครื่องจักรที่ปัญญาประดิษฐ์จะควบคุมได้มีประสิทธิภาพมากกว่ามนุษย์ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจช่วยให้ต้นทุนลดต่ำลง แต่ในขณะเดียวกันก็จะเกิดอาชีพใหม่ ๆ เกี่ยวกับการควบคุม AI ได้เช่นกัน

2. เทคโนโลยี Cloud แม้จะเป็นเทคโนโลยีที่มีการใช้งานมาแนวแล้ว แต่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ หลายเริ่มเปลี่ยนรูปแบบของ data center ภายในองค์กร หรือ on premise มาเป็นรูปแบบ cloud กันมากขึ้น กระตุ้นให้เกิด digital transformation เทคโนโลยี cloud ได้ปรับเปลี่ยนแปลงการทำธุรกิจ ช่วยให้องค์กร หรือธุรกิจสามารถเข้าถึงข้อมูลได้สะดวกมากขึ้น พนักงานจึงสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และสามารถทำโปรเจคร่วมกันได้แม้จะไม่ได้อยู่ที่เดียวกันก็ตาม นอกจากนี้ยังช่วยห้การจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากทำได้ง่ายมากขึ้น และสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ตลอดเวลา

3. เมตาเวิร์ส (Metaverse) นับตั้งแต่เริ่มปี 2022 ก็หลายธุรกิจต่างเริ่มเข้าสู่โลกของเมตาเวิร์สกันมากขึ้น เพราะเริ่มมองเห็นความเป็นไปได้ทางธุรกิจ รวมทั้งความสามารถในการสนับสนุนศักยภาพทางธุรกิจอย่างการใช้สร้างร้านค้าเสมือนจริง การซื้อเครื่องแต่งกาย เครื่อใช้ต่าง ๆ ให้อวาตาร์ดิจิทัล รวมถึงการจัดซื้องานศิลปะดิจิทัล ทรัพย์สิน ในรูปแบบ NFT (Non-Fungible Token) รวมถึงการโต้ตอบกับผู้ใช้เป็นอวาตาร์ดิจิทัลเพื่องานบริการลูกค้า และการสื่อสารทางธุรกิจ โดยเมตาเวิร์สสามารถนำมาใช้เพื่อการกระจายอำนาจ การทำงานร่วมกัน และลดภาระการเดินทาง และคาดว่าความนิยมนี้จะยั่งยืนต่อไปในอนาคตด้วย

4. บล็อกเชน (blockchain) Arabianbusiness คาดการณ์ว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนจะกลายเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงถึง 40 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2025 เทคโนโลยีบล็อกเชนกำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงธุรกิจอุตสาหกรรมหลายประเภท ทั้งการดูแลสุขภาพ อสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจบันเทิง ซึ่งเมื่อธุรกิจต่าง ๆ เหล่านี้นำบล็อกเชนมาใช้ประโยชน์อย่างแพร่หลาย ทั้งใช้ในการจัดระบบบริหารจัดการภายในองค์กร หรือระบบการชำระเงิน และคาดว่าการเติบโตของเทคโนโลยีนี้จะสอดคล้องกับคริปโทเคอร์เรนซีหรือสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งเริ่มใช้เป็นแหล่งการชำระเงินที่แพร่หลายต่อไปในอนาคต ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจเกือบทุกประเภทแน่นอน

5. หุ่นยนต์ (Robot) พบแนวโน้มว่าอุตสาหกรรมต่าง ๆ และรูปแบบชีวิตประจำวันของผู้คนจะมีการหุ่นยนต์มาใช้งานเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ สอดคล้องกับเทคโนโลยี AI ทำให้หุ่นยนต์ทำงานได้มีประสิทธิภาพดีขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีหุ่นยนต์สามารถประหยัดงบประมาณ และลดความเหนื่อยล้าของมนุษย์ได้ดี

เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าอยู่ตลอดเวลา การรู้เท่าทันเทคโนโลยีจึงมีความสำคัญต่อชีวิตเป็นอย่างมาก เพราะเทคโนโลยีคือตัวช่วยให้ชีวิตมนุษย์ง่าย สะดวก รวดเร็ว และประหยัดเวลาได้มากขึ้น

เทคโนโลยีพลังงานทดแทนที่น่าสนใจมีอะไรบ้าง

ในปัจจุบันแหล่งพลังงานที่มีการใช้งานอยู่นั้นนับวันก็มีแต่จะหมด และร่อยหรอลงไปเรื่อย ๆ สวนทางกับความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น ด้วยอัตราการขยายตัวของเมืองที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ มีความจำเป็นที่จะต้องนำพลังงานไปใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาคครัวเรือนหรือภาคอุตสาหกรรม แต่ในปัจจุบันก็ได้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ค้นหาพลังงานทดแทนที่มีประสิทธิภาพ และสามารถหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ หรือสร้างขึ้นมาเพิ่มได้เรื่อย ๆ ตามรายละเอียดต่อไปนี้

พลังงานจากร่างกายมนุษย์ (Human Power) เป็นเทคโนโลยีการสร้างพลังงานหมุนเวียนที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถสร้างขึ้นใหม่ได้เรื่อย ๆ ผ่านร่างกายของมนุษย์ ซึ่งสอดคล้องกับเทคโนโลยีในปัจจุบันที่อุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ จำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าที่น้อยกว่าในอดีตมาก ดังนั้นการผลิตไฟฟ้าด้วยร่างกายมนุษย์เพียงเล็กน้อยก็เพียงพอที่จะจ่ายไปเป็นพลังงานให้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บางชนิดได้ ด้วยเทคโนโลยีในการเปลี่ยนผ่านการเคลื่อนไหวของร่างกายมนุษย์ แล้วแปลงให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้า

พลังงานคลื่น (Wave Power) ในปัจจุบันก็มีการใช้เทคโนโลยีลักษณะนี้แล้ว โดยนำพลังงานลมที่พัดมาจากทะเล แล้วแปลงให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยในปัจจุบันมีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีการผลิตพลังงานลักษณะนี้ให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น อย่างการสร้างฟาร์มผลิตไฟฟ้าจากพลังงานคลื่นในประเทศโปรตุเกส เป็นต้น

พลังงานไฮโดรเจน (Hydrogen Power) ไฮโดรเจนเป็นก๊าซไร้สี ไร้กลิ่น ที่มีในจักรวาลมากถึง 74% แต่บนโลกพบได้เฉพาะเมื่อเกิดปฏิกิริยารวมกันระหว่างออกซิเจน คาร์บอน และไนโตรเจน โดยก๊าซไฮโดรเจนเป็นก๊าซที่ให้พลังงานสูง แต่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ เกิดความพยายามด้านเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาเซลล์เชื้อเพลิงที่สามารถแปลงไฮโดรเจนให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้าขึ้นมา เพื่อนำมาไปใช้เป็นแหล่งพลังงานสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า เครื่องบิน หรือยานพาหนะอื่น ๆ รวมถึงนำพลังงานไฮโดรเจนไปใช้ตามบ้านและอาคารต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ต่างลงทุนวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีที่ใช้ไฮโดรเจนเป็นพลังงานกันอีกด้วย

พลังงานชีวภาพจากสาหร่าย (Algae Power) เนื่องจากมีน้ำมันในสาหร่ายอยู่เป็นปริมาณมาก นักวิทยาศาสตร์จึงพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถนำดัดแปลงพันธุกรรมของสาหร่าย เพื่อนำมาผลิตเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพได้ โดยเทคโนโลยีนี้ยังพัฒนาให้สาหร่ายสามารถเจริญเติบโตได้ดีในน้ำเสีย เพื่อช่วยในการบำบัดน้ำเสียไปด้วย ซึ่งในปัจจุบันมีบริษัทในประเทศที่กำลังพัฒนานำพลังงานน้ำมันชีวภาพจากสาหร่าย มาใช้ในรถยนต์ไฮบริดด้วย เรียกว่าเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีทั้งทางด้านพลังงาน และยานพาหนะควบคู่กันไป และคาดว่าเทคโนโลยีนี้จะช่วยลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงจากฟอสซิสได้ดี

พลังงานฟิวชั่น คือพลังงานที่เกิดจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่น นับเป็นพลังงานสะอาดที่ แตกต่างจากพลังงานนิวเคลียร์ทั่วไป เพราะเกิดจากการรวมตัวของพลังงาน ตัวอย่างเช่นการรวมตัวของธาตุเบาจนกลายเป็นธาตุหนัก อย่างกรณีของก๊าซไฮโดรเจนที่รวมกันกลายเป็นฮีเลียมแล้วปลดปล่อยพลังงานออกมา ก่อนนำพลังงานที่อยู่ในใจกลางอะตอม (Nucleus) ไปใช้ พลังงานฟิวชั่นจึงไม่มีการปล่อยสารกัมมันตรังสี เหมือนพลังงานนิวเคลียร์แบบปกติ ซึ่งในปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีนี้มาสร้างเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานฟิวชั่นเชิงพาณิชย์แห่งแรกของโลกที่ประเทศฝรั่งเศสแล้ว

MarTech เทคโนโลยีเพิ่มศักยภาพด้านธุรกิจในตลาดยุคดิจิตอล

Digital marketing หรือตลาดดิจิตอล เป็นช่องทางการทำธุรกิจที่มีความเชื่อมโยงกับสื่อออนไลน์ เนื่องจากจำเป็นต้องใช้สื่อออนไลน์เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ซึ่งการทำการตลาดออนไลน์ในยุคดิจิตอลจำเป็นต้องพึ่งพา MarTech เทคโนโลยียุคใหม่ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพด้านธุรกิจในยุคดิจิตอล

MarTech หรือ Marketing Technology คือ ซอฟต์แวร์เครื่องมือการลาดท่ช่วยในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่มีคุณภาพและสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายด้วยข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย MarTech สามารถแบ่งออกเป็นการทำงานได้ ดังนี้

การจัดเก็บข้อมูล (Data Integration Platform) MarTech จะทำการจัดเก็บข้อมูลจากผู้บริโภคจากช่องทางออนไลน์และออฟไลน์มาจัดเก็บเพื่อให้สะดวกต่อการดึงข้อมูลออกมาใช้งาน
การวิเคราะห์ข้อมูล (Marketing Analytics) โดยนำข้อมูลของผู้บริโภคมาวิเคราะห์และแยกข้อมูลออกเป็นสัดส่วนเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน รวมถึงช่วยในการนำเสนอข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ
การวิเคราะห์ตัวตน (Personalization) MarTech สามารถดึงข้อมูลที่ถูกจัดเก็บมาจำลองเป็นบุคลิกภาพ การใช้ชีวิตของผู้บริโภค ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานซอฟต์แวร์เข้าใจความต้องการของกลุ่มเป้าหมายดียิ่งขึ้น
เครื่องมือทำการตลาดด้วยคอนเทนต์ (Content Marketing Tools) คอนเทนต์ คือ การนำเสนอข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ เช่น บทความ, คลิปวิดีโอ, โฆษณา หรือภาพนิ่งและอื่น ๆ อีกมากมายที่ช่วยในการจุดประกายให้ผู้บริโภครับรู้ถึงบ้างสิ่งบางอย่างและผลักดันให้เกิด Action ต่อไป
Search Engine Optimization (SEO) เครื่องมือที่สำคัญในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านช่องทางออนไลน์ โดยการทำ SEO ไม่เพียงแต่ช่วยปรับเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพง่ายต่อการใช้งานแต่ยังหมายถึงการปรับคอนเทนต์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

แม้ว่า MarTech จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำการตลาดในยุคดิจิตอล แต่ผู้ใช้งาน MarTech ควรจะมีสกิลที่ช่วยให้การทำงานร่วมกับ MarTech ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย MarTech Skill ที่จำเป็นต้องมี ได้แก่

  • ทักษะด้าน Data research & Analysis การมีทักษะด้านการรวบรวมข้อมูลของผู้บริโภค จัดเก็บข้อมูลและดึงข้อมูลมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพช่วยให้การทำงานด้วย MarTech มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ทักษะการทำ Flowchart เนื่องจากการทำงานร่วมกับ MarTech เป็นการทำงานเชิงวิเคราะห์ข้อมูลจึงจำเป็นต้องมีทักษะด้านการทำ Flow Chart เพื่อกำหนดเป้าหมายของงานต่าง ๆ และช่วยให้เกิดการสื่อสารอย่างชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมทั้งต้องออกแบบผังการทำงานให้มีรายละเอียดที่ครอบคลุมมากที่สุด
  • วางแผนสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภค Customer Journey นักการตลาดที่มีฝีมือต้องสามารถวางแผนสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภคได้ ทำให้นักการตลาดที่ต้องทำงานร่วมกับ MarTech จึงควรมีทักษะในการนำข้อมูลของผู้บริโภคมาใช้วางแผน Customer Journey ได้

แม้ว่า MarTech จะเป็นเทคโนโลยีเพิ่มศักยภาพด้านธุรกิจในตลาดยุคดิจิตอลแต่สิ่งที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องทำงานร่วมกับทักษะของนักการตลาดจึงจะทำให้ผลงานตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายมากที่สุด